วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Blythe !


แผนผังเว็ปไซด์








หน้าแรก




ที่มา:http://www.magic-pony.com/gallery/blythe/blythe_invite.jpg

หน้าที่สองประวัติของBlythe!






ที่มา: http://www.buttonbunny.com/feebay/buttons/blythe.jpg


Blythe

Who's that Girl ?
Blythe อ่านออกเสียงว่า ' Blahyth ' หรือ ' Blind ' เธอคือตุ๊กตาวินเทจเจ้าเสน่ห์ที่ถูกออกแบบขึ้นในปี 1972 โดยโรงงานผลิตของเล่นในสหรัฐ ฯ นามว่า Kenner ภายใต้concept ที่อยากสร้างเอกลักษณ์ความแตกต่างให้เกิดขึ้นกับตุ๊กตาดังนั้นโมเดลตุ๊กตาทั้ง 4 แบบ ชื่อ Blythe , Karess , willow และ Skye จึงถูกคิดค้นขึ้นมา หลังจากนั้น Kenner ได้ว่าจ้างดีไซเนอร์นักออกแบบของเล่นอย่าง Allison Katzman จาก Marvin Glass & Associates หนึ่งในสตูดิโอออกแบบของเล่นที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดในโลกให้ดีไซน์ปลุกปั้นตุ๊กตา Blythe ฉบับออริจินัลขึ้น แล้วนับแต่นั้นมา เด็กๆทั้งหลายก็ได้รู้จักกับของเล่นชิ้นใหม่ชิ้นนี้

Blythe by Kenner
ปี 1972
Blythe ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับทรงผมยอดฮิตในยุค 70s ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี 4 แบบ พร้อมด้วยแฟชั่นเครื่องมีให้ Mix&Match กว่า 12 ชุด ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกนั้นถูกออกแบบขึ้นมาอย่างโดนเด่น ด้วยดวงตากลมโตที่สามารภเปลี่ยนสีได้ 4 สีทั้ง เขียว ชมพู ส้ม และน้ำเงิน เพียงแค่ดึงห่วงที่อยู่หลังศีรษะ แต่กลับทำให้มันกลายเป็นตุ๊กตาตัวแรกของโลกที่เด็กๆพากันหวาดกลัว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Blythe ไม่เป็นที่นิยม จนมีเหตุให้ต้องปิดตัวลงหลังจากที่ออกวางขายในตลาดได้แค่เพียง 1 ปีเท่านั้น

Gina Garan
30 ปี ต่อมา จากตุ๊กตาเด็กเล่นที่ครั้งหนึ่งคือสินค้าเหลือค้างสต๊อก มาบัดนี้มันกลายเป็นตุ๊กตาหายาก ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากที่เพื่อนสนิทของ
Gina Garan ( โปรดิวเซอร์สาวชาวอเมริกัน ) ได้มอบตุ๊กตา Blythe เป็นของขวัญให้ เธอก็ตกหลุมรักมันเข้าอย่างจัง Gina เริ่มพามันเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเกือบทุกมุมโลก ขณะเดียวกัน เธอก็เริ่มฝึกถ่ายภาพจากกล้อง SLR โดยมี Blythe เป็นนางแบบให้เธอได้บันทึกภาพความประทับใจเก็บไว้กว่า 100 รูป จนถูกตีพิมพ์เป้นหนังสือรวมภาพถ่ายสุดสวย ( Chronicle Books ) ชื่อ ' This is Blythe ' รวมถึงหนังสือ Firecracker Alternative Book ที่ขายได้กว่า 100,000 เล่มในปี 2001 พร้อมกับนิทรรศการแสดงภาพถ่ายที่ทำให้ชื่อของ Gina's Gallery โด่งดังไปทั่วโลก

The Japanese Blythe
หลังจากที่
Hasbro ( ผู้สืบทอดกิจการจาก Kenner ) ได้มอบลิขสิทธิ์การผลิตตุ๊กตาให้กับบริษัท Takara ประเทศญี่ปุ่น Blythe ก็เริ่มเป็นที่รู้จักของคนญี่ปุ่น จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา TV ให้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Parco และเพียงชั่วข้ามคืนมันก็กลายเป็นตุ๊กตายอดนิยม ส่งผลให้ราคาประมูล Blythe บนเว็บ eBAY ดีดตัวพุ่งสูงขึ้นจากเดิม 35$ เป็น 350$ ทันที รวมถึง Neo-Blythe บนเว็บประมูลของ Yahoo ก็ขายหมดเกลี้ยงสต๊อกถึง 4 ครั้งด้วยกัน แต่ตัวที่มีราคาแพงและหายากที่สุดก็คือ Blythe คอลเลกชั่นวินเทจ ซึ่งสนนราคาอยู่ที่ตัวละ 1,000 เหรียญสหรัฐ ฯ

กระแส Blythe fever ไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงง่ายๆ เพราะหลังจากที่ Gina กับ Junko Wong ( โปรดิวเซอร์ชาวญี่ปุ่น ) ได้ร่วมมือกันจัดนิทรรศการต่างๆที่เกียวกับ Blythe ขึ้น ก็ได้รับความสนใจจากคนในแวดวงแฟชั่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงาน Annual Blythe Charity Fashion Show ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ภายในงานได้มีการระดมพลสุดยอดดีไซเนอร์ฝีมือดีของห้องเสื้อแบรนด์เนมชื่อดังจากทุกมุมโลกอย่าง John Galliano , Prada , Gucci , Vivienne Westwood , Issey Miyake , Versace , Sonia Rykiel ฯลฯ มาร่วมกันออกแบบเสื้อผ้าตัวจิ๋วให้กับเหล่านางแบบ Blythe ได้สวมเดินเฉิดฉายอยู่บนแคตวอล์กกลางกรุงโตเกียว

ในปี 2001 Takara ได้รับหน้าที่แปลงโฉม Blythe ให้ดูโดนเด่นขึ้นด้วยขนาดตัว 11 นิ้ว พร้อมกับชื่อใหม่ว่า ' Neo Blythes ' และนับแต่นั้นมา ก็มีคอลเลกชั่นต่างๆของ Neo Blythes เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Blythe ตัวแรก ' Parco Limited Edition ' ( 1,000 ตัว ) ที่ขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ตามมาด้วยคอลเลกชั่น Mondrian , Rosie Red , Holly Wood , All Gold in One , Kozy Kape inspired , Aztec Arrival , Sunday Best และ Miss Anniversary Blythe ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นพิเศษที่ทำขึ้นเพื่อเป็นการฉลองวันเกิดครบรอบ 1 ปีของ Neo Blythes พร้อมเซอร์ไพรส์เหล่านักสะสมตุ๊กตาทั้งหลายด้วยการเปิดตัว Blythe สายพันธ์ใหม่นามว่า ' Petite Blythe ' ด้วยขนาดตัวที่เล็กกะทัดรัดเพียง 4 1/2 นิ้ว แม้ว่าจะมีสีตาให้เลือกเพียงสีเดียว แต่มันสามารถขยับเปลือกตาขึ้น-ลงได้พร้อมๆกับการดัดบอดี้ส่วนต่างๆให้ดูมี Movement เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคอลเลกชั่นที่ถือว่าโดดเด่นและได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Perfect Petite Series Blythe Dolls ที่ประกอบไปด้วย Asian Butterfly , Paisley Star และ Cosmo Afternoon ปิดท้ายด้วยการเปิดตัว ' Blythe Belle ' ตุ๊กตาพีวีซีที่จำลองและย่อส่วนขนาดของ Blythe ให้เหลือเพียงแค่ 3 นิ้วเท่านั้น

Blythe Bodies
BL : ในช่วงปี 2001-2002 Neo Blythe ได้ผลิตออกมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นตุ๊กตาที่มีอิทธิผลต่อแวดวงแฟชั่น ด้วยบอดี้แบบตุ๊กตา Licca ตุ๊กตา 6 ตัวแรกที่ปฏิวัติตุ๊กตารูปแบบเดิมๆด้วยลูกตาที่มีความแวววาว และพื้นผิวหน้าที่อ่อนนุ่ม หลังจากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบตา พร้อมกับแต่งแปลือกตาให้มีความกระจ่างชัดเจนขึ้น รวมถึงการปรับเปลี่ยนสีผิวหน้าให้มันวาวขึ้นด้วย

EBL ( Excellent ) : ในปี 2003 Takara เฉลิมฉลองวันครบรอบ 1 ปีแรกของ Blythe ด้วยการเปิดตัว Excellent Blythe ที่มีรูปแบบใกล้เคียงกับต้นแบบเดิมของ Kenner จะต่างกันก็ตรงวัสดุ ยกตัวอย่างเช่น รุ่น Cinnamon Girl ที่ผลิตขึ้นจากพลาสติกและยางสีเข้ม มีความโปร่งใสมันวาว จนมาถึงรุ่น Fruit Punch แต่พลาสติกที่ใช้ทำลูกตาจะเป็นโทนสีสว่างขึ้น ( หลังจากที่หยุดผลิต EBL Dolls ... Takara ก็ได้ปล่อยตุ๊กตา Blythe รุ่นใหม่คือ Margaret Meets Ladybug และ Samedi Marche ออกมาตีตลาดของเล่นอีกอย่างต่อเนื่อง )

SBL ( Superior ) : ในปี 2004 - ปัจจุบัน ยังคงอิง Blythe ต้นแบบดั้งเดิมของ Kenner ( 1972 ) มากที่สุด แต่รูปแบบนั้นเปลี่ยนใหม่หมด เริ่มจากการยกเครื่องเปลี่ยนตั้งแต่ใบหน้า ไปจนถึงโครงสร้างภายใน ไม่ว่าจะเป็นลูกตาที่มีความแวววาวขึ้น รวมถึงชิ้นส่วนต่างๆที่ประกอบอยู่ด้านหลังก็ถูกทำให้ดูสมูทขึ้น พร้อมกับเพิ่มชิ้นส่วนใหม่บริเวณหนังศีรษะเพื่อเพิ่มน้ำหนักและความทนทานมากขึ้นด้วย

RBL ( Radiant ) : ในปี 2006 Radiant Blythe ถูกผลิตขึ้นมาตีตลาดอีกครั้ง ภายใต้บอดี้ที่เหมือนกับ SBL และ EBL แต่แตกต่างกันที่ตรงส่วนโค้งของเปลือกตาที่ดูลึกและมีมิติขึ้น เช่นรุ่น Darling Diva , Last Kiss และ Star Dancer

ในขณะที่โลกกำลังขับเคลื่อนต่อไปอย่างก้าวกระโดด ผู้คนต่างต่อสู้ดิ้นรนเพื่อหวังก้าวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ จนหลงลืมคุณค่าของอดีต แต่ก็ยังมีคนอีกไม่น้อยที่โหยหาอดีต เฉกเช่นเดียวกับ Blythe ที่แม้จะเป็นเพียงแค่ตุ๊กตา แต่มันก็ได้พิสูจน์ให้เราได้เห็นแล้วว่า ทำไมผู้คนถึงยังคงหลงเสน่ห์ในตัวมันนัก แม้เวลาจะผ่านไปสักกี่สิบปีก็ตาม ....

ที่มา : http://www.thaigoodview.com/node/20092


หน้าที่สามลักษณะBlythe

แต่ละรุ่นเป็น Type แบบไหน และรายละเอียด ของ Blythe แบบต่างๆ ของ Takara อย่างย่อๆ

BL-Type Blythe:

ในช่วงปี 2001-2002 Neo Blythe ได้ผลิตออกมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นตุ๊กตาที่มีอิทธิผลต่อแวดวงแฟชั่น ด้วยบอดี้แบบตุ๊กตา Licca ตุ๊กตา 6 ตัวแรกที่ปฏิวัติตุ๊กตารูปแบบเดิมๆ ด้วยลูกตาที่มีความแวววาว และพื้นผิวหน้าที่อ่อนนุ่ม หลังจากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบตา พร้อมกับแต่งแปลือกตาให้มีความกระจ่างชัดเจนขึ้น รวมถึงการปรับเปลี่ยนสีผิวหน้าให้มันวาวขึ้นด้วยโดย เช่นรุ่นดังต่อไปนี้


· BL-0 Parco Limited

· BL-1 Mondrian

· BL-2 Hollywood

· BL-3 Rosey Red

· BL-4 All Gold In One

· BL-5 Kozy Cape Inspired

· BL-6 Aztec Arrival Inspired

· BL-7 Sunday Best

· TRU-EX Dotty Dot

Note: There are different releases for BL-1 Mondrian and BL-2 Hollywood respectively.


EBL-Type Excellent Blythe:

ในปี 2003 Takara เฉลิมฉลองวันครบรอบ 1 ปีแรกของ Blythe ด้วยการเปิดตัว Excellent Blythe ที่มีรูปแบบใกล้เคียงกับต้นแบบเดิมของ Kenner จะต่างกันก็ตรงวัสดุ ยกตัวอย่างเช่น รุ่น Cinnamon Girl ที่ผลิตขึ้นจากพลาสติกและยางสีเข้ม มีความโปร่งใสมันวาว จนมาถึงรุ่น Fruit Punch และพลาสติกที่ใช้ทำลูกตาจะเป็นโทนสีสว่างขึ้น (หลังจากที่หยุดผลิต EBL Dolls Takara ก็ได้ปล่อยตุ๊กตา Blythe รุ่นใหม่คือ Margaret Meets Ladybug และ Samedi Marche ออกมาตีตลาดของเล่นอีกอย่างต่อเนื่อง) ตุ๊กตา blythe แบบ EBL-Type ได้แก่

· Miss Anniversary Limited (623 pieces)

· EBL-01 Bohemian Beat

· EBL-02 Asian Butterfly

· BL-03 Piccadilly Dolly Limited

· EBL-04 Skate Date

· EBL-05 Rouge Noir

· EBL-06 Excellent Hollywood

· EBL-07 Cinnamon Girl

· TRU-EX2 Cherry Berry

· EBL-08 Tea For Two

· EBL-09 Disco Boogie

· EBL-10 Mission

· EBL-11 Bohemian Beats Again

· Miss A2 Courtney Tez by Nike (2003 pieces)

· TRU-EX3 Fancy Pansy

· EBL-12 Fruit Punch

· TRU-EX5 Very Cherry Berry

· EBL-13 Samedi Marche

· Margaret Meets Ladybug (LE 3000)




เปรียบเทียบตาของ น้อง ไบลธ์ แบบ EBL และ SBL

SBL-Type Superior Blythe

ในปี 2004 - ปัจจุบัน SBL ยังคงอิง Blythe ต้นแบบดั้งเดิมของ Kenner( 1972 ) มากที่สุด แต่รูปแบบนั้นเปลี่ยนใหม่หมด เริ่มจากการยกเครื่องเปลี่ยนตั้งแต่ใบหน้า ไปจนถึงโครงสร้างภายใน ไม่ว่าจะเป็นลูกตาที่มีความแวววาวขึ้น รวมถึงชิ้นส่วนต่างๆที่ประกอบอยู่ด้านหลังก็ถูกทำให้ดูสมูทขึ้น พร้อมกับเพิ่มชิ้นส่วนใหม่บริเวณหนังศีรษะ เพื่อเพิ่มน้ำหนักและความทนทานมากขึ้นด้วย เช่นรุ่นดังต่อไปนี้

· SBL-01 Superior Skate Date

· SBL-02 Very Inspired by Pow Wow Poncho

· ROK-EX Velvet Minuet (Korea Exclusive)

· SBL-03 Silver Snow

· SBL-04 I Love You It’s True

· SBL-05 Sunday Very Best

· OTS-EX Happy Everyday / Over The Stripes (LE 3000)

· SBL-06 Lounging Lovely

· SBL-07 French Trench

· Miss A3 Art Attack (2004 pieces)

· Mono Camme Ca (LE 3000)

· TRU EX-6 Birdie Blue

· SBL-08 Mademoiselle Rosebud

· SBL-09 Groovy Groove

· Mitten by Blythe (LE 3000)

· Lil Heart by Milk (LE 4000)

· TRU-EX7 Tweedly Do

· SBL-10 Inspired by Pinafore Purple

· SBL-11 V Smash

· SBL-12 Candy Carnival

· Miss A4 Cinema Princess (2005 pieces)

· Roxy Baby (LE 3000)

· SBL-13 Good Neighbour Cafe

· Tommy February 6 (LE 3000)

· Samedi Marhce Encore

· Asian Butterfly Encore

· White Magic Night

· White Magic Afternoon

· White Magic Morning (LE 500 pieces)

· Rendezvous Chou Chou (LE 3000)

· Merry Skier

· Cute and Curious (TRU-EX)

· Black Berry Bush (LE 3000)

· Tea For Two Encore

· Rosey Red Encore

· Night Flower

· Strawberry Millefeuille (LE 3000)

· Honey Bunny Once More

· Prima Dolly Violet

· Prima Dolly Ginger

· Prima Dolly Ashlette

· Piccadilly Dolly Encore

· Feel The Sky

· Rainy Day Parade

· My Best Friend

· Save The Animals

· Cloud 9 Bowl (TRU-EX)

· Enchanted Petal

· Ashlette Encore

· Odekake Kimono

· Mod Molly

· Natasha Moore

· Mush Room (LE 3000)

· Can Can Cat

· Miss A7 Christina The Bride (LE 1004)

· Milky Way Sugar

· Bow Wow Trad

· Cousin Olivia

· Frosty Frock

· Prima Dolly Ashletina

· Prima Dolly Violetina








Left: SBL Rosey Red Encore; Right: EBL-03 Rosey Red



Left: SBL Tea For Two Encore; Right: EBL-08 Tea For Two


RBL-Type Radiance Blythe:

ในปี 2006 Radiance Blythe ถูกผลิตขึ้นมาตีตลาดอีกครั้ง ภายใต้บอดี้ที่เหมือนกับ SBL และ EBL แต่แตกต่างกันที่ ตรงส่วนโค้งของเปลือกตา ที่ดูลึกและมีมิติขึ้นดูได้จากรุ่นดังต่อไปนี้

· Miss A5 Darling Diva (2006 pieces)

· Last Kiss (LE 3000)

· Star Dancer

· Yukinonamidahime (LE 3000)

· Ichigo Heaven / TRU Japan 15th Anniversary LE (TRU EX)

· Prima Dolly Aubrey

· Prima Dolly Saffy

· Prima Dolly Ebony

· Prima Dolly Melon (LE 500 pieces)

· Taylor Gibson

· Ultimate Tour (LE 3000)

· Gentle River (LE 3100)

· Primadolly Peach (LE 500 pieces)

· Primadolly Cassis (LE 500 pieces)

· Hello Harvest

· Dainty Biscuit

· Angelica Eve

· Saffy Encore

· Aubrey Encore

· Mrs. Retro Mama (LE 3000 pieces)

· Welcome Winter

· Happy Harbor

· Heart of Montmartre (LE 3000 pieces)

· Miss A7 Eleanor (LE 1004 pieces)

· Miss Sally Rice

· Amaryllis

· Prima Dolly Marigold (LE 1000 pieces)

· Prima Dolly Aubrena

· Matryoshka Maiden



**LE 3000 - CWC Limited Edition 3000 pieces
**LE 3100 - CWC Limited Edition 3100 pieces
**LE 4000 - CWC Limited Edition 4000 pieces
**TRU-EX - Japan Toys R Us Exclusive

ADG (Ashton Drake Galleries)

Blythe- ADG รุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดย Hasbro ร่วมกับ Ashton Drake Galleries เพียงแต่ว่า ตุ๊กตาที่ผลิตออกมานั้นเป็นรุ่นคล้ายกับที่เคยผลิตโดย Takara, Japan โดยทำการ re-production ของตุ๊กตาที่เคยผลิตในปี 1972 จาก Kenner ตุ๊กตา ADG Blythe มีจัดจำหน่ายได้แก่รุ่น

· Love N Lace (Redhead Blythe without bangs)

· Pretty Paisley (Platinum Blonde Blythe without bangs)

· Priceless Parfait (Brunette Blythe without bangs)

· Golden Goddess (Brunette Blythe with bangs)

· Medieval Mood (Dark Brunette with bangs)


หน้าที่สี่รุ่นต่างๆของBlythe

ตารางแสดง blythe รุ่นแรกๆ ที่ผลิตโดย Takara








และในปี 2001 Takara ได้รับหน้าที่แปลงโฉม Blythe ให้ดูโดนเด่นขึ้นด้วยขนาดตัว 11 นิ้ว พร้อมกับชื่อใหม่ว่า “Neo Blythe” และนับแต่นั้นมา ก็มีคอลเลกชั่นต่างๆของ Neo Blythe เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Blythe ตัวแรก Parco Limited Edition (1,000 ตัว) ที่ขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ตามมาด้วยคอลเลกชั่น Mondrian, Rosie Red, Holly Wood, All Gold in One, Kozy Kape inspired, Aztec Arrival inspired, Sunday Best และ Miss Anniversary Blythe ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นพิเศษ ที่ทำขึ้นเพื่อเป็นการฉลองวันเกิด ครบรอบ 1 ปี ของ Neo Blythe





และยังมีเซอร์ไพรสให้กับ ์เหล่านักสะสมตุ๊กตาทั้งหลายด้วยการเปิดตัว Blythe สายพันธ์ใหม่นามว่า “Petite Blythe” ด้วยขนาดตัวที่เล็กกะทัดรัดเพียง 4 1/2 นิ้ว แม้ว่าจะมีสีตาให้เลือกเพียงสีเดียว แต่มันสามารถขยับเปลือกตาขึ้น-ลงได ้พร้อมๆกับการดัดบอดี้ส่วนต่างๆให้ดูมี Movement เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคอลเลกชั่นที่ถือว่าโดดเด่น และได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Perfect Petite Series Blythe Dolls ที่ประกอบไปด้วย Asian Butterfly, Paisley Star และ Cosmo Afternoon ปิดท้ายด้วยการเปิดตัว Blythe Belle ตุ๊กตาพีวีซีที่จำลอง และย่อส่วนขนาดของ Blythe ให้เหลือเพียงแค่ 3 นิ้วเท่านั้น

ที่มาทั้งรูปและบทความ : http://www.blythethailand.com/



ติดต่อเรา!


นาย มนูญ จันทร์มณี 5100487

http://oatzoatzonly.blogspot.com


นาย กฤษฎา อุ่มบางตลาด 5100699

http://chinjang33.blogspot.com


นาย ชัยรัตน์ ประพันธ์วัฒนะ 5101521

http://kangforever.blogspot.com


นายกรณัฎฐ์ศักดิ์ นพเสถียร 5101543

http://myf-r-e-eliving.blogspot.com


นาย กิตติฑัตย์ โควหกุล 5105510

http://bunshoes.blogspot.com


นาย สยมภู เกียรติวรางกูร 5100544

http://sucxer.blogspot.com/

นาย ษณกร ชัยชนะธรรม 5100808